วันที่ ๑๙ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๐
แถบดาวเคราะห์น้อย
อยู่บริเวณระหว่างวงโคจรของดาวอังคาร และ ดาวพฤหัสบดี นักดาราศาสตร์คาดว่าคงมีการก่อตัวเช่นเดียวกับวัตถุที่ก่อกำเนิดเป็นดาวเคราะห์ชั้นในดาวเคราะห์น้อยจึงเป็นเศษที่เหลือจากการพอกพูนเป็นดาวเคราะห์หินและถูกแรงรบกวนของดาวพฤหัสบดีซึ่งมีขนาดใหญ่และแรงรบกวนจากดวงอาทิตย์ ทำให้มวลสารในบริเวณแถบของดาวเคราะห์น้อยจับตัวกันให้มีขนาดใหญ่ไม่ได้ จึงปรากฏมีแต่ดาวเคราะห์น้อยขนาดเล็กๆ จำนวนมาก เช่น ดาวเคราะห์น้อยแกสปรา ส่วนซีรีส ซึ่งเป็นวัตถุที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในแถบดาวเคราะห์น้อยจัดเป็นดาวเคราะห์แคระ และวัตถุที่ใหญ่เป็นอันดับสองคือดาวเคราะห์น้อยที่ชื่อพาลลัส
ที่มา: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ. โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ พิมพ์ครั้งที่๑๐.กรุงเทพมหสนคร: สกสค. ลาดพร้าว, ๒๕๕๙
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น